คำถาม - คำตอบ
โอโซน คือรูปหนึ่งของก๊าซออกซิเจนที่มีพลัง (Active Oxygen) สามารถทำปฏิกิริยาออกซิเคชั่นกับสารอินทรีย์ สารอนินทรีย์ได้เกือบทุกชนิดทั้งในน้ำและในอากาศ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อที่รุนแรงและเร็วกว่าคลอรีนถึง 3,125 เท่า โอโซนจะเข้าไปจับโมเลกุลของสารปนเปื้อน และทำการแยกย่อยสลาย โดยการเปลี่ยนโครงสร้างของสารนั้น โอโซนเป็นก๊าซที่มีโครงสร้างไม่เสถียร หลังทำปฏิกิริยา โอโซนจะแปรสภาพกลับเป็นก๊าซออกซิเจนซึ่งไม่เป็นอันตราย หรือส่งผลกระทบใดๆ ต่อมนุษย์ สัตว์และสิ่งแวดล้อม ถูกค้นพบเมื่อ ค.ศ. 1840 โดยนักเคมีชาวเยอรมันชื่อ คริสเตียน เฟเดอริก ชอนไบน์ โดยตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า OZEIN
หลังจากที่โอโซนจับตัว และออกจากเครื่องผลิตโอโซนไปกระจายอยู่ภายในห้อง โอโซน จะเปลี่ยนสภาพกลับมาเป็นออกซิเจน(O2) ทันที โดยขั้นตอนต่างๆ เนื่องจากว่าโอโซนเป็นสารเคมีที่มีลักษณะไม่มั่นคง ซึ่งจะทำให้เพิ่มแรงในขั้นตอนการทำปฏิกิริยาจากออกไซด์กับตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่น สะสารต่างๆ จะถูกย้ายโดยโอโซน โอโซนจะเปลี่ยนเป็นออกซิเจน [O2] ภายใน 30 นาที ด้วยจำนวนที่เท่ากับครึ่งหนึ่งของระดับของตัวมันเองหมายความว่าภายในระยะเวลา 30 นาที จะมีส่วนที่เหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เป็นหลักการเดียวกันกับเราขาคณิตที่ลดจำนวนทีละครึ่ง เช่น 16,8,4,2,1 ในทางปฏิบัติครึ่งหนึ่งของวงจรของ โอโซน มักจะน้อยกว่า 30 นาทีของแบคทีเรียและสิ่งที่มีชีวิตอื่นๆ ในอากาศ แต่ในขณะเดียวกัน โอโซน ก็มีพลังงานพอที่จะทำให้งานที่มันปฏิบัติอยู่สำเร็จลุล่วงได้.
ก๊าซโอโซนมีปฏิกริยาออกซิไดซ์รุนแรงมาก ซึ่งจะทำลายเซลล์เนื้อเยื่อของเชื้อโรคแบบเฉียบพลันโดยเฉพาะเชื้อ แบคทีเรียจะตายภายใน 2 นาที ในขณะที่คลอรีนจะใช้เวลาถึง 4 วัน ทั้งนี้การใช้งานในส่วนของงานอุตสาหกรรมต้อง ออกแบบให้เหมาะสมโดยวิศวกรที่ชำนาญงานเท่านั้น ถ้านำไปใช้อย่างไม่ถูกวิธีจะไม่เกิดประโยชน์ ทำให้สูญเสียเงิน และจะเข้าใจว่าโอโซนใช้แล้วไม่ได้ผล ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กันของปัจจัยต่อไปนี้คือ
น้ำ นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต และเป็นพาหะนำโรคได้ดีโดยเฉพาะน้ำที่ไม่สะอาด เป็นเหตุให้เกิดโรค การเจ็บป่วยหรือการแพร่เชื้อโรคยังผู้อื่น เช่นการดื่มน้ำจากเครื่องทำน้ำเย็นในที่สาธารณะ ดังนั้น การใช้โอโซนในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำดื่มหรือ ภาชนะใส่น้ำ จึงมีความเหมาะสมมาก เนื่องจากไม่มีสารเคมีตกค้าง และฆ่าเชื้อโรคได้
โอโซน มีคุณสมบัติในการฟอกสี ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีโอโซนเข้ามาใช้ในการผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด การบำบัดน้ำเสียและน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากโอโซนมีคุณสมบัติในการฟอกสีและบำบัดน้ำ ทำให้น้ำเสียที่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะทั้งทางน้ำและอากาศ สามารถกลับมาเป็นน้ำที่ใสและมีคุณลักษณะของน้ำที่ดีขึ้น ไม่เป็นพิษต่อสภาพแวดล้อม
จะเห็นได้ว่าการนำเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วยระบบโอโซนนั้น ช่วยให้บริโภคน้ำดื่มที่สะอาด ช่วยให้สุขภาพของชีวิตนั้นดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของมลพิษที่เกิดจากน้ำเสียต่างๆ อันเป็นแหล่งเพาะพันธ์ของเชื้อโรคในระบบอุตสาหกรรม การใช้เทคโนโลยีโอโซนช่วยในการฆ่าเชื้อโรคในระบบน้ำ จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่า กับประโยชน์ที่คุณจะได้รับในอนาคต เพื่อชีวิตและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โอโซนสามรถใช้ประโยชน์ได้หลากหายเช่น
1. เครื่องฟอกอากาศโดยทั่วไปใช้วิธีกรองความสกปรกอากาศด้วยแผ่นกรอง เน้นฝุ่นละอองเป็นหลัก
2. เครื่องผลิตโอโซน เน้นการกำจัดกลิ่นอับชื้นและกระจายก๊าซโอโซนไปฆ่าเชื้อโรค สลายกลิ่น สลายก๊าซพิษได้ทั่วทั้งห้องรวมถึงภายในเครื่องปรับอากาศ
สิ่งที่มีประโยชน์ จะมีข้อจำกัดในการใช้งาน หากราสูดดมตรงๆ มากๆ อาจเกิดการระคายเคืองเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยการเปิดโอโซนควรเปิดในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งเราสามาถนั่งอยู่ได้ปกติ หรือหากมีกลินฉุนมากเกินไปก็ควรปิดเครื่องสักพักเพื่อให้โอโซนแตกตัว
การใช้โอโซนฟอกอากาศ ตามมาตรฐานสากลปริมาณโอโซนต้องไม่เกิน 0.05 ส่วนในล้านส่วน ถ้าเกินกว่านี้อาจจะเกิดระคายเคืองได้ แต่เนื่องจากก๊าซโอโซนไม่เสถียร จะสลายตัวคืนสภาพออกซิเจน ถ้าออกจากพื้นที่อาการระคายเคืองก็จะหายไป เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณโอโซนในธรรมชาติ บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ เช่น ชายทะเล ภูเขาสูง นั้นจะมีโอโซน ประมาณ 0.01-0.03 ส่วนในล้านส่วน เครื่องโอโซนฟอกอากาศจะผลิตโอโซนที่ระดับ 0.04 ส่วนในล้านส่วน
Copyright © 2008 Designed & Developed by www.ozonicinter.com